วันเสาร์ที่ 25 สิงหาคม พ.ศ. 2555

กลุ่มอาหารสำหรับผู้ป่วยโรคเบาหวาน

10 สุดยอดอาหารที่ควรทานทุกวัน


 

1. เบอร์รี่

          แม้ว่าผลไม้ตระกูลเบอร์รี่จะเคยเป็นผลไม้ที่หาทานได้ยากในบ้านเรา แต่ในสมัยนี้เห็นจะไม่ใช่อย่างนั้นแล้วล่ะค่ะ เพราะเดี๋ยวนี้เค้ามีขายกันเกลื่อนตามห้างสรรพสินค้า และท้องตลาดบางแห่งด้วยแน่ะ คุณ ๆ รู้ไหมคะว่า ผลไม้ตระกูลเบอร์รี่นั้น ช่วยในเรื่องของระบบย่อยอาหารได้มากเลยทีเดียว แถมยังมีแอนตี้อ๊อกซิแดนท์ช่วยให้ผิวอ่อนเยาว์ และที่สำคัญ ยังมีวิตามิน C ที่ช่วยในเรื่องผิวพรรณและหวัดอีกด้วย

 

2. ไข่ไก่

         ไข่ไก่เป็นสุดยอดอาหารที่หาง่ายมาก ๆ แถมยังราคาถูกอีกแน่ะ คุณ ๆ รู้ไหมว่า ไข่ไก่นั้นเป็นแหล่งของโปรตีนคุณภาพสูง ที่ทำให้คุณได้พลังงานแต่ไม่อ้วน แถมมีประโยชน์ในการบำรุงสายตา อ้อ แถมยังมีลูทีนที่จะป้องกันผิวคุณจากการทำลายของแสงแดดอีกด้วย

 

3. ถั่ว

          ถั่วเป็นแหล่งของเหล็ก ซึ่งเป็นสารอาหารที่ช่วยในการส่งผ่านออกซิเจนจากปอดไปยังเซลล์ต่าง ๆ ของร่างกาย โดยในถั่ว 1 ถ้วย จะให้ธาตุเหล็กประมาณ 16 มิลลิกรัม ซึ่งถือว่าเป็นปริมาณที่สูงเลยทีเดียว นอกจากนี้ ถั่วยังมีไฟเบอร์ช่วยให้ร่างกายขับถ่ายได้ง่ายอีกด้วย

 

4. อัลมอนต์ แม็คคาเดเมีย และมะม่วงหิมพานต์

          เป็นอาหารที่อุดมไปด้วยที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพหัวใจ จากการศึกษาของนักโภชนาการ พบว่า ผู้ที่รับประทานเมล็ดพืชเหล่านี้จะมีอายุยืนกว่าผู้ที่ไม่ได้ทานถึง 2 ปีครึ่งเลยทีเดียว นอกจากนี้ ยังมีโอเมก้า 3 เอแอลเอ ที่จะส่งผลให้อารมณ์ดีขึ้น ที่สำคัญยังช่วยลดคอเลสเตอรอลที่ไม่ดีด้วย

 

5. ส้ม

          เป็นแหล่งวิตามิน C คุณภาพ ที่มีประโยชน์ต่อการสร้างเซลล์เม็ดเลือดขาว และช่วยสร้างภูมิต้านทานโรค รวมทั้งยังมีไฟเบอร์สูง เป็นแหล่งของแอนตี้อ๊อกซิแดนท์ ที่จะช่วยปกป้องเซลล์ผิวจากการถูกทำลาย และเสริมสร้างคอลลาเจนในผิว เรียกว่าคุณประโยชน์ครบครันเลยทีเดียว

 

6. มันเทศ

          อาหารที่หาได้ง่าย แถมยังให้ประโยชน์มากมายกับสุขภาพอีก มันเทศเป็นแหล่งเบตาแคโรทีนชั้นดีที่ช่วยในการบำรุงสายตา เสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน และที่หลาย ๆ คนคิดไม่ถึง คือ มันเทศมีสารต้านมะเร็งสูงอีกด้วยค่ะ

 

7. บร็อคโคลี่

          เป็นแหล่งของวิตามินซี เอ และเค เป็นผักที่มีเบต้าแคโรทีนสูง ช่วยบำรุงสายตา และมีสารไอโซธิโอไซยาเนทส์ (Isothiocyanates) ที่ช่วยต่อต้านมะเร็งปอด รวมถึงมะเร็งกระเพาะปัสสาวะ นอกจากนี้ วิตามินเคยังเป็นสารอาหารที่ช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงของกระดูกด้วย

 

8. ชา

          แม้ว่าชาจะเป็นหนึ่งในเครื่องดื่มที่ไม่ได้ให้ผลดีต่อสุขภาพเท่าไหร่ แต่รู้ไหมว่า การดื่มชาในปริมาณที่พอเหมาะ จะช่วยลดความเสี่ยงต่อการเป็นอัลไซเมอร์ มะเร็ง และทำให้สุขภาพฟันและกระดูกแข็งแรงขึ้น เพราะในชานั้นมีสารแอนตี้อ๊อกซิแดนท์ที่เรียกว่า ฟลาโวนอยด์ (flavonoids) ที่ให้ผลลัพธ์ที่ดีต่อสุขภาพ

 

9. คะน้า

          มีสารเบต้าแคโรทีนสูง ช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งกระเพาะอาหาร มะเร็งลำไส้ มะเร็งปอด รวมถึงมีวิตามินที่ช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อ สร้างภูมิต้านทานโรคที่ดี นอกจากนี้ยังมีแคลเซียมเสริมสร้างการทำงานของกระดูก 

 

10. โยเกิร์ต

          อาหารสุขภาพที่หลาย ๆ คนมักจะซื้อไว้ติดบ้าน เอาไว้ทานยามหิว และนั่นเป็นสิ่งที่ดีแล้วค่ะ เพราะในโยเกิร์ตนั้นมีสารอาหารที่จำเป็นต่อร่างกายมากมาย ไม่ว่าจะเป็น โพแทสเซียม ฟอสฟอรัส สังกะสี วิตามินบี 12 และโปรตีน ดังนั้น ถ้าคุณทานโยเกิร์ตให้ได้วันละ 1 ถ้วย จะทำให้สุขภาพคุณดีอย่าบอกใครเลยล่ะ

http://health.kapook.com/view16463.html


กลุ่มอาหารสำหรับผู้ป่วยโรคเบาหวาน

       
 


   1.กลุ่มอาหารที่ห้ามรับประทาน 
 
ขนมหวานทุกชนิด  เช่น ทองหยิบ  ทองหยอด  ฝอยทอง  เป็นต้น
 







 
น้ำหวานทุกชนิด เช่นน้ำอัดลม  หรือเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของน้ำตาล  แต่หากเป็นกาแฟ  ก็ควรเป็นกาแฟดำ หรือกาแฟไม่ใส่น้ำตาล 


 







น้ำผลไม้ที่หวานจัด  น้ำผึ้ง  น้ำตาล  

 




 





ผลไม้ที่มีรสหวานจัด  ผลไม้กวน ผลไม้แช่อิ่ม   หรือผลไม้แปรรูปที่รสหวานจัด  หรือมีส่วนผสมของน้ำตาล 


 






อาหารชุบแป้งทอด  หรือของขบเคี้ยวทอดกรอบ





     2.กลุ่มอาหารที่รับประทานได้ไม่จำกัดปริมาณ


 
ได้แก่ ผักใบเขียวชนิดต่างๆ เช่น ผักบุ้ง  ผักคะน้า  ผักกาด  ผักตำลึง  และผักกวางตุ้ง เป็นต้น 







     3.กลุ่มอาหารที่รับประทานได้แต่ต้องจำกัดปริมาณ


 



 
อาหารสำเร็จรูป  หรืออาหารสำหรับผู้ป่วยเบาหวาน 





 





ผักผลไม้ที่มีแป้งมาก  เช่น หอมหัวใหญ่  ฟักทอง  กระเจี๊ยบ  กล้วย  ฝรั่ง  และมะละกอ เป็นต้น

 


 




นมจืดที่ไม่มีส่วนผสมของน้ำตาล  หรือนมพร่องไขมัน 


 






อาหารประเภทข้าว  แป้ง  ถั่วเมล็ดแห้ง 



 




เนื้อสัตว์หรืออาหารที่ให้โปรตีน  และควรหลีกเลี่ยงเนื้อติดมันต่างๆ เช่น หนังไก่  หนังหมู 


 





อาหารที่มีไขมันมาก ควรลดปริมาณการรับประทานลง  และหากเลี่ยงได้ก็ควรเลี่ยง 




 






อาหารที่มีไขมันจากพืชบางชนิด เช่น น้ำมันปาล์ม  กะทิ  และควรใช้น้ำมันข้าวโพด น้ำมันมะกอก  หรือน้ำมันถั่วเหลืองแทน 








หลักโภชนบัญญัติ  สำหรับผู้ป่วยเบาหวาน
 
     
แนวทางปฏิบัติเกี่ยวกับการบริโภคอาหารเพื่อสุขภาพที่ดีนั้นมี 9 ประการ ดังนี้
1. กินอาหารให้ครบ 5 หมู่ และให้หลากหลายในแต่ละหมู่  หมั่นดูแลน้ำหนักตัวไม่ให้มากหรือน้อยจนเกินไป
2. กินข้าวเป็นอาหารหลัก  สลับกับอาหารประเภทแป้งเป็นบางมื้อ
3. กินพืชผักให้มาก และกินผลไม้เป็นประจำ
4. กินปลา เนื้อสัตว์ที่ไม่ติดมัน  ไข่ และถั่วเมล็ดแห้งเป็นประจำ
5. ดื่มนมให้เหมาะสมตามวัย
6. กินอาหารที่มีไขมันแต่พอควร
7. หลีกเลี่ยงอาหารรสหวานจัดและเค็มจัด
8. กินอาหารที่สะอาด  ปราศจากการปนเปื้อน
9. งดหรือลดเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ก


http://www.thaigtf.com/desearse/sweet/sweetcontrol2.asp




อาหารแลกเปลี่ยนสำหรับผู้ป่วยเบาหวาน


 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น